โรคนิ่วเป็นโรคที่มีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ทีเดียวเพราะมีรายงานว่าพบนิ่วในกระเพาะปัสสาวะในโครงกระดูกมัมมี่ของประเทศอียิปต์มัมมี่ดังกล่าวเชื่อว่า เป็นศพของเด็กชายอายุประมาณ 16 ปีซึ่งตายมาแล้วประมาณ 7, 000 ปี
นิ่ว...เกิดจากการสะสมของเกลือแร่จนกลายเป็นผลึกแข็งในทางเดินปัสสาวะ เกิดได้ทั้งในทางเดินปัสสาวะส่วนบน และส่วนล่างส่วนบน ได้แก่c นิ่วมีหลายขนาดตั้งแต่เป็นผงละเอียดจนถึงก้อนใหญ่ แล้วไปอุดการไหลของปัสสาวะชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ แคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) ส่วนชนิดอื่นๆ ได้แก่ นิ่วที่เกิดจากกรดยูริกผลึกกรดอะมิโน และสารจำพวกฟอสเฟตหรือนิวสตรูไวท์ (Struvite) ที่เกิดจากการติดเชื้อ
นิ่วและการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นความผิดปกติร้ายแรงที่อาจส่งผลเสียต่อไต จนลุกลามเป็นไตวายได้ นิ่วเป็นโรคที่ต้องรักษาโดยใช้การศัลยกรรมเป็นหลัก แต่มีการใช้ยาร่วมด้วยปัจจุบันการรักษานิ่วมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้น แต่คนเป็นนิ่วอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
นิ้วรู้ไม่ยาก หากให้ดี ป้องกันไว้ก่อน
อาการเป็นนิ่วจะรู้ได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือ อาการปวดที่ตำแหน่งไตหรือปวดชนิดที่รุนแรงจนเหงื่อตก เกิดเป็นพักๆ ปัสสาวะจะขัดถ่ายเจ็บ ไม่สะดวก ปัสสาวะมีสีผิดปกติ อาจมีเลือดหรือเป็นสีน้ำล้างเนื้อ หรืออาจมีหนองร่วมด้วยได้ บางที่ออกกะปริดกะปรอย หรือออกเป็นหยดขุ่นหรือขาวเหมือนมีผงแป้งอยู่ หรือเกิดการอยากถ่ายปัสสาวะอยู่เสมอ แต่ถ่ายไม่ออก ถ้ามีอาการที่ว่ามานี้ น่าจะเป็นนิ่วแน่ๆ ต้องรีบมาพบแพทย์โดยเร็ว
สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดนิ่วยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากการกินอาหารที่ขาดสมดุล กรรมพันธุ์ หรือการเจ็บป่วยด้วยโรคบางอย่าง เช่น เกาต์ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น แต่ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด นิ่วคือ เกลือแร่ที่จับกันเป็นก้อนไม่ละลายไปกับน้ำปัสสาวะจึงไม่สามารถขับออกไป ได้ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ มีสารที่ไม่ละลายน้ำอย่าง เช่น กรดยูริกมากเกินไป ไม่มีสารไปป้องกันการจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว เช่น พวกซิเตรท หรือในร่างกายมีน้ำน้อยเกินไปเนื่องจากกินน้ำน้อยหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เสียเหงื่อมากทำให้ปัสสาวะข้น ดังนั้น การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยในการป้องกันการเกิดนิ่วและขับนิ้วก้อนเล็กๆ ให้ออกมากับปัสสาวะได้
กินอาหารต้านนิ่ว
•การได้รับโปรตีนสูงจากเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุหนึ่งของนิ่วในไตดังนั้นควรกินผักใบเขียวให้มากขึ้น เพราะมีวิตามินเค และโปแตสเซียมซึ่งช่วยป้องกันการเกิดก้อนนิ่วได้
•คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลแปรรูป ทำให้มีการผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการขับของเสียพวกแคลเซียมมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิวจึงไม่ควรบริโภคอาหารพวกนี้มากเกินไป
•การได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมจะลดการเกิดนิ่วได้
•คนเป็นโรคเกาต์ซึ่งมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไปต้องคุมของที่แสลงกับโรค
•สมุนไพรที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น หญ้าหนวดแมว และสมุนไพร
ที่ทำให้มีซิเตรทในปัสสาวะสูง เช่น พวกน้ำส้ม น้ำมะนาวจะช่วยป้องกันการเกิดการจับตัวกันของนิ่ว
•การขาดวิตามินและเกลือแร่บางตัว เช่น วิตามินบี 1 บี 6 ปี 12 จะมีผลทำให้เมตาบอลิซึมของร่างกายผิดปกติ และมีการสร้างออกซาเลตมากกว่าปกติทำให้ออกซาเลตออกมาในปัสสาวะเพิ่มขึ้น จึงควรรับประทานข้าวกล้องซึ่งมีวิตามินเหล่านี้และผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูงเช่นกล้วย
-ดื่มชาสมุนไพรช่วยขับปัสสาวะ เช่น ไหมข้าวโพดน้ำตะไคร้ใบเตยพืชตระกูลหญ้าเพื่อลดสาเหตุของการติดเชื้อ
ข้อแนะนำสำหรับคนเป็นนิ่ว
1. ควรดื่มน้ำมากๆเพื่อเพิ่มปริมาณปัสสาวะ และลดความเข้มข้นของสารเกลือในปัสสาวะป้องกันการอิ่มตัวของสารที่ละลายน้ำได้น้อยจนเกิดการจับเป็นผลึก และตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วควรดื่มน้ำประมาณ 1 แก้ว 200 หรือ 250 ซีซีทุก 2 ชั่วโมงในเวลากลางวัน และถ้าตื่นขึ้นมาตอนกลางคืนให้ดื่มน้ำอีก 1-2 แก้ว
2. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น กระโดดเชือก หรือวิ่งเหยาะๆตามสมควรควรเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆซึ่งจะทำให้เกิดก้อนนิ่วได้ยากและโดยเฉพาะผู้ที่มีนิ่วในท่อไตนิ่วจะเคลื่อนและหลุดได้ง่ายขึ้น
3. กินยาตามที่แพทย์สั่งโดยสม่ำเสมอ
4. จำกัดอาหารที่เป็นสาเหตุของนิ่ว เช่น เนื้อหรือสัตว์ปีกเครื่องในสัตว์
5. สมุนไพรพื้นบ้านบางชนิดโดยเฉพาะหญ้าหนวดแมวมีฤทธิ์ขับปัสสาวะและสามารถเปลี่ยนภาวะกรดต่างได้จึงน่าจะนำมาใช้ร่วมในการรักษาเพื่อทดแทนยาแผนปัจจุบันบางชนิด
ข้อมูลจากหนังสือ บันทึกแผ่นดิน 11 สมุนไพร เพื่อ...ไต