HIV ในระยะที่ 2 มี อาการอย่างไร
เป็นระยะที่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย แต่มีอัตราการเพิ่มจำนวนของเชื้ออยู่ในปริมาณต่ำ ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็น แต่สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้หากไม่ระมัดระวัง ผู้ป่วยในระยะนี้จะแสดงอาการที่ชัดเจนมากขึ้นแต่อาการมักจะไม่มีความรุนแรง เช่น วัณโรค ปอดกำเริบ เป็นต้น โดยที่เชื้อไวรัสเอชไอวี จะแทรกตัวในต่อมน้ำเหลืองและม้าม ซึ่งจะทำระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยในระยะนี้จะไม่มีอาการผิดปกติที่เด่นชัด
โดยโรคที่มีอาการแทรกซ้อนได้แก่
1. วัณโรค : วัณโรคปอด จะมีอาการไอเรื้อรัง บางคนมีไข้เรื้อรัง ผอมลง เหนื่อยง่าย คนที่เป็น นานๆ อาจไอมีเลือดปน
2. งูสวัด : มีอาการปวดตามตัว ก่อนมีผื่น 2-3 วัน มักจะไม่มีไข้ หรือมีไข้ต่ำๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดศีรษะ มีอาการทางผิวหนัง อาจจะคันผิวหนัง
3. โรคเริม : อาการเด่นชัดที่สุดของเริมคือเป็นตุ่มใสเล็ก พอง มีความเจ็บปวด และแสบบริเวณแผล เมื่อ 1-2 วันผ่านไป ภายในตุ่มใสจะมีน้ำอยู่ข้างใน และจะขึ้นเป็นกลุ่มบนผิวหนังในบริเวณที่ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณปาก อวัยวะเพศ อาการจะเป็นอยู่ในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
4. โรคปอด : ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ตัวร้อน หน้าแดง เหงื่อออก หนาวสั่น ไอมีเสมหะ เจ็บหน้าอก หายใจเร็ว หายใจลำบาก หอบเหนื่อย
5. เชื้อราที่ลิ้น : มีคราบสีขาวที่ลิ้น กระพุ้งแก้ม หรือเพดานปาก ที่เหงือก และต่อมทอนซิล ลักษณะคราบขาวจะมีลักษณะคล้ายกับฝ้าในปาก ภายในช่องปากแดง หรือเป็นแผล จนส่งผลกระทบต่อการกลืนอาหารหรือการเคี้ยวอาหาร อาจมีเลือดออกซิบ ๆ มาจากบริเวณนั้น
ปัจจุบัน มีการผลิตภัณฑ์ แค็ปซูลพลูคาว หรือ ยาน้ำสมุนไพรพลูคาว ให้ทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจอยากทราบรายละเอียดหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เพจ ภูมิแพ้แก้ไขได้ ด้วยสมุนไพรพลูคาวคุณสัมฤทธิ์ https://www.plukaowherb.com
Pageviews | 4,289,814 view(s) |
Visitors | 1,669,921 time(s) |
Open since | May 8, 2017 |
Last updated | Sep 5, 2025 |