(ลด 10%) ชาชงกระเจี๊ยบ อภัยภูเบศร

ชาชงกระเจี๊ยบ อภัยภูเบศร

กระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เป็นพืชเขตร้อนที่พบได้ในหลายประเทศ กลีบเลี้ยงของดอกกระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทสต่าง ๆ ใบอ่อน ยอดอ่อนของกระเจี๊ยบสามารถรับประทานเป็นอาหารโดยใส่ในแกงเพื่อแต่งรสเปรี้ยว ใช้แต่งกลิ่น หรือรับประทานเป็นผักสด ลำต้นของกระเจี๊ยบยังสามารถใช้ทำเป็นเชือกปอได้ กลีบเลี้ยงดอกกระเจี๊ยบมีสีแดง โดยทั่วไปใช้แต่งสีในอาหาร ไวน์ น้ำหวาน ในประเทศไทยใช้ใบสดและกลีบเลี้ยงทั้งสดและแห้งของกระเจี๊ยบต้มกินแก้ไอ แก้นิ่ว ลดไข้ ขับน้ำดี โดยใช้ใบสด 30-60 กรัม ต้มหรือแกง ใช้กลีบเลี้ยงแห้ง 5-10 กรัม ต้มน้ำหรือชงน้ำร้อนดื่ม

จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า การนำน้ำต้มจากดอก มาทดลองสามารถเป็นยาขับปัสวาวะ เป็นยาลดความดันโลหิตสูง เป็นยาลดอาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะภายหลังจากการผ่าตัดในผู้สูงอายุที่ เป็นนิ่วได้ ส่วนสารสกัดจากกลีบดอกของกระเจี๊ยบนั้นช่วยระบายทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น ช่วยลด อาการบวม ช่วยยับยั้งการสร้างอัลฟลาท๊อกซิน ช่วยปกป้องไม่ให้ตับถูกทำลาย นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศหญิงซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ ต่อสตรีวัยทองได้ กระเจี๊ยบมีแนวโน้มที่จะลดความดันโลหิต ลดคลอเรสเตอรอลและขับกรดยูริคได้

สรรพคุณ : บำรุงร่างกาย ลดความดันโลหิต ลดระดับไขมันในเส้นเลือด กำจัดพิษจากร่างกาย ขับนิ่วขนาดเล็ก

วิธีใช้ : ใส่ชา 1 ซองลงในแก้ว เติมน้ำเดือดตั้งทิ้งไว้ให้ชาละลายออกมา ไม่ควรใช้วิธีต้มดื่ม

ส่วนประกอบหลัก : กลีบเลี้ยงดอกกระเจี๊ยบแดง

ขนาดบรรจุ : 1 ห่อบรรจุ 10 ซองชา / 1 ซองชาน้ำหนักสุทธิ 2.5 กรัม

ข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง : ยังไม่มีรายงานเรื่องข้อห้ามใช้/ข้อควรระวัง

อาการไม่พึงประสงค์ :   ยังไม่มีรายงานเรื่องอาการไม่พึงประสงค์

ข้อมูลความเป็นพิษ :

• กระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง เห็นได้จากการใช้เป็นอาหารและเครื่องดื่มม าอย่างยาวนานและจากการศึกษาในห้องทดลอง ในกรณีที่ใช้เป็นอาหารสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่หากใช้เพื่อการรักษาควรใช้ตามขนาดที่ระบุไว้ในข้อบ่งใช้
• สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาตับและไตผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้

คำแนะนำ : กระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่สามารถช่วยลดไขมันใน เลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรกลีเซอไรด ์ซึ่งควรใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง อาหารทะเล เป็นต้น

อายุผลิตภัณฑ์ : 2 ปี (นับจากวันผลิต)

การเก็บรักษา : เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิห้องไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส ห่างจากแสงแดดและความร้อน